วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556

Black file:No one will escape

Blackfile:No one will escape 

แฟ้มลับปิดเมืองสังหาร

Blackfile:No one will escape
แฟ้มลับปิดเมืองสังหาร
GOV Republic ประเทศที่มีป้อมปราการเป็น มหาสมุทรแปซิฟิก เมืองที่ไม่เจอปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก
เมืองที่มีดีไซน์การออกแบบที่ทันสมัยอันดับต้นๆของโลก และ เป็นเมืองที่รํ่ารวยเป็นอันดับต้นๆของโลก และแน่นอน เมืองที่มีเงินก็ย่อมมีแหล่งทำเงินเสมอ
นั่นคือเมืองท่าสำคัญในน่านนํ้าแปซิฟิก เป็นเมืองที่บรรดาประเทศมหาอำนาจต่างหมายปอง เป็นเมืองที่มีทิวทัศน์สวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยว
และเป็นเมืองที่ไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์ เพราะผังเมืองถูกออกแบบมาให้มีกลไกล หมุนตัวเองเป็นกงล้อตามเข็นนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกาสลับกันไป
ซึ่งแต่ละวงจะแบ่งเป็นเขตได้ชัดเจนคือ
วงในสุด จุดสำคัญของเมือง ที่ว่าการรัฐสภา วงแนวเขตที่สอง เป็น โรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่ราชการต่างๆ
วงที่สาม เป็นเขตที่พักอาศัยของพลเรือน วงสี่ เป็นกรมปศุสัตว์การเกษตร โรงงานอุตสาหกรรมและบริษัท และวงสุดท้าย เป็นเขตแนวการป้องกันประเทศ
เหมือนเป็นเมืองต้นแบบในความฝันที่หลายประเทศใฝ่ฝันถึงไว้เพระาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถยนต์ และ การหมุนตัวเองของเกาะทำให้อากาศถ่ายเท
ระบายความร้อน ออกไปได้ดี
กล่าวถึง อดีตเมือง METROPOLIS เป็นเมืองในเขตวงแหวนอุตสาหกรรม ที่ประสบปัญหา ประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนต้องขยายเมืงอออกไปนั้น
เป็นเมืองที่มีอัตราความเจริญสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จากการค้าส่งออกพลังงาน และเครื่องประดับจำพวกเพรชและทองเป็นหลัก จึงทำให้กลายเป็นเขตปกครองพิเศษ ไปในเวลาอันสั้น
แต่ หลังจากการเลือกตั้งเทศมนตรีจบลงไม่นานนั้น นายกก็ถูกลอบสังหาร จึงมีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจขึ้นมาอย่างกระทันหัน และรัฐบาลชุดใหม่นี้
ได้ตั้งนโยบายออกมามากมาย สำหรับแก้ปัณหาคอรัปชั่นให้น้อยลง เนื่องจากประเทศอยู่ในสภาวะไร้ผู้นำอันเป็นการทำให้เสถียรภาพในการจัดการบริหารหลายๆอย่างหายไป
และความรุ่งโรจณ์นั้นก็กำลังค่อยๆดับลง
ทางสภา GOV ได้รับรู้ถึงแผนการการแยกประเทศของเขตปกครองพิเศษMETRO จึงทำการส่งทูตไปเจรจา
แต่ผลตอบรับนั้น คือการปฏิเสธ และสังหารทูตของพวกเค้า อันเป็นการผิดกฏสัญญาเจนนีวา ซึ่งมีความหมายว่า ทางMETRO ประกาศสงครามกับ GOV
โดยฝ่ายของ METROประกาศสงครามในชื่อ ROM (Republic of Metropolis)
และ การต่อสู้กันของทั้งสองฝ่ายกำลังจะถึงจุดสิ้นสุด ด้วยการรบที่ต่อเนื่องและรุนแรง ทำให้ทางGOV เสริมกองทัพด้วยการจ้างทหารต่างประเทศเข้ามาสมทบ
การรบกินเวลายาวนานจนกำลังพลล้มตายไปมากมาย และจุดจบของROMกำลังใกล้เข้ามา แต่เหมือนฝ่ายROMจะยังมีไพ่ตายสุดท้ายเก็บงำไว้
แต่การที่จะเข้าไปโจมตีใจกลางสำคัญของROMนั้นยังทำไม่ได้ เนื่องด้วยสัญญาณวิทยุรบกวนที่สามารถทำให้ วิทยุขาดการติดต่อและระบบไฟฟ้าขัดข้อง
แม้แต่รถถังเองก็ยังเข้าโจมตีได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทางGOVจึงได้จัดส่งหน่วยรบพิเศษMARSOC นำหน่วยโดยผู้กองเชอร์แมน และพลพรรคได้แก่
หมวดเนปจูน จ่าฮิวตัน และผู้หมู่แอนโทนีย์ เข้าไปในเขตของGOV เพื่อล่าและกวาดล้างทหารของROM ที่ยังหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่METROPOLIS
แต่เรื่องราวดันกลับตาลปัด เพราะฝ่ายของเชอร์แมนดันเป็นฝ่ายที่ถูกล่าล้างบางแทน แต่ด้วยทหารของเชอร์แมยที่ได้รับการฝึกมาทั้งหมด
และได้รับอณุญาติให้ใช้วิทยาการพิเศษ การพรางตัว หุ่นโดรนที่ทันสมัย และการปลูกฝังวิสัยทัศน์พิเศษ แม้ต่อให้เหลือคนสุดท้ายก็ใช่ว่าภารกิจจะจบลง
ภารกิจถูกตั้งเป้าหมายให้เสร็จสิ้น หรือตายทั้งหมด และถ้าไม่ทำก็ออกจากเมืองไม่ได้เช่นกัน เชอร์แมนเข้าใจในส่วนของตรงนี้ดีและจำต้องทำภารกิจต่อไป
เป้นภารกิจที่ภายนอกชื่ออาจจะดูเรียบง่าย และมันก็เหมือนภารกิจไปฆ่าตัวตาย นั่นคือ "Search and Detroy"
ค้นหาและกำจัดฝ่ายกบฏให้สิ้นซาก จากเขตปกครองพิเศษ
________________________________________________________________________________________
เมื่อทีมของเชอร์แมนเดินทางเข้าพื้นที่สัญญาณรบกวน วิทยุก็ขาดหายไป และโดรนยังคงทำงานได้ปรกติแต่ส่งข้อมลูกลับฐานไม่ได้เท่านั้น
การรบยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เชอร์แมนนำทีมไปพักและวางแผนที่ใต้สะพานลอย และพวกเค้าพลาด ขณะวางแผน ร้อยโทเนปจูนถูกทหารของROMยิงล้มทั้งยืน
พวกเค้าโดนกองทหารโจมตีด้วยรูปแบบอาร์มกองกำลังทหารม้าย่อย (มีทหารคุ้มกัน 1 หมู่ และรถถัง 1 คัน) เชอร์แมนสั่งการให้ฮิวตัน และแอนโทนีย์กำจัดรถถัง
หลังสิ้นคำสั่งทุกคนเหมือนเตรียมพร้อมรับมือมาเป็นเดือน พวกเค้าแยกย้ายกันไป เชอร์แมนและเนปจูนเป็นตัวล่อให้ ฮินตัน และแอนโทนีย์ใช้ชุดอำพรางหักเหแสง
ทำให้สภาพเหมือนล่องหน พวกเค้าล้มรถถังและจัดการข้าศึกได้อย่างง่ายดาย นั่นเพราะว่าข้าศึกส่วนมากเป็นเพียงพลเรือนที่สู้ไม่เป็นซะส่วนมาก แต่จะให้ปล่อยรอดไป
นั่นก็ทำไม่ได้ เพราะทั้งหมดเป็นคำสั่งจับตายทั้งหมด จำเป็นต้องกำจัดทิ้งแบบไร้ความปราณี เมื่อสิ้นเสียงปืนนัดสุดท้ายในการสั่งหายคนที่เหลือ จ่าฮิวตันก็เดินออกไปเช็คศพ
แต่เค้าพลาด โดนพลซุ่มยิงที่เหลืออยู่ยิงล้มหงายหลัง เชอร์แนเลยสั่งให้ทุกคนพรางตัว เพราะดูทีท่าว่า จะยังมีพลซุ่มยิงหลงเหลืออยู่ เชอร์แมนสั่งทุกคนวิ่งเข้าไปหลบในตึก
พลซุ่มยิงเล็งหัวเชอร์แมนไว้แต่เคราะห์ดีเชอร์แมนหลบลงหลุมได้ทันกระสุนแค่โดนหมวกจนหลุด ทั้งทีมกระโดดลงไปตามเชอร์แมน
เชอร์แมนสั่งให้ฮิวสตันเตรียมพร้อมยิง ระหว่างที่แอนโทนี่ย์และเชอร์แมนไปหาจุดซุ่มยิง พวกเค้าวิ่งลงเข้าท่อระบายนํ้า พวกเค้าส่องมองออกไปจากช่องระบายนํ้า เพื่อหาตัวการ
"โทนีย์ เห็นมันรึยัง " เชอร์แมนตะโกนถาม
"ยังไร้วี่แววเลยครับผู้กอง"
"เอาล่ะมองตามที่ผมบอก เห็นกระจกตรงชั้นสองที่แตกนั่นไหม นั่นคือจุดสุดท้ายที่ผมเห็นเขา"
"ผมเห้นแล้ว มันแอบโคตรเนียนเลย แต่ไม่ใช่จุดของคุณนะผมเห็นเค้าแล้ว"
"เยี่ยมมากโทนีย์ เราจะโยนงานให้ฮิวตันจัดการต่อ" เชอร์แมนพูดพลางตบบ่าโทนีย์เป็นสัญญาณให้เตรียมตัวลุยต่อ
"แล้วท่านจะให้ผมส่องหาทำ พระแสงไรเนี่ย " โทนีย์พูดบ่นพลางเก็บกล้องเข้ากระเป๋า
ในอีกมุมหนึ่งของเมือง กลุ่มทหารรับจ้างอีกกลุ่มของGOV หน่วย DLT (DARK LYKANTOPE) ได้เข้ามาเพื่อภารกิจ ค้นหาและทำลายตัวปล่อยสัญญาณรบกวน
หรือJAMMER นำทีมโดยจ่าซิสเต็ม และผู้กองคอนเนอร์ และแน่นอนพวกเค้าถูกสั่งห้ามออกนอกเขตสงครามด้วยเช่นกัน
ทีมDLTต้องเจอกับกองทหารของROM ที่คอยลอบโจมตีจากมุมมืดตลอดเวลา ทำให้ทีมนี้สูญสียกำลังพลไปมากกว่าที่คิด ถึงจะรอดมาเพราะลูกทีมช่วยตีฝ่าวงล้อม
แต่ก็โดยกองยานเกราะ และหน่วยหุ่นยนต์เกราะ โจมตีอย่างหนัก และพยายามหนีเข้าไปหลบในโรงงาน หลังจากเข้าไปหลบกันใน ห้องเก็บอุปกรณ์ เพื่อเตรียมตัวสำหรับตีฝ่าออกไปยังเป้าหมาย
"เอาไงดีจ่า งานนี้มันไม่หมูเลยให้ตายสิ" นีเบลถามแบบถอดใจ ผู้กองคอนเนอร์ได้แต่มองไปรอบๆ ดูทุกคนทำหน้าถอดใจ
"ทำไปอย่างที่ทำมาแหละ ยิงที่จำเป็นหลบไปเรื่อยประหยัดกระสุนดี " ผู้กองและจ่าหันหน้ามาสบตากันก่อนทั้งคู่จะแสยะยิ้มและชักปืนพร้อมกัน เป็นสัญญาณว่าได้เวลาออกไปลุย
ในเวลาไม่นาน หุนโดรนติดอาวุธ 3ตัว ก็ตามเข้ามาในโรงงานจนได้ แต่คอนเนอร์ได้ดักโจมตีอยู่ก่อนหน้าอยู่แล้ว คอนเนอร์ไม่รอช้า กระโดนคว้าหุ่นตัวแรกไว้แล้วจัดการ
หักคอหุ่นด้วยการทุ่มตัวจนคอหุ่นพัง และเกิดช็อตจนปืนของหุ่นลั่นออกมา ในขณะเดียวกันหุ่นตัวที่สองก็ตามมาสมทบ คอนเนอร์ไม่รอช้า กระโดนเข้าหลบหลังโดรนตัวแรกแล้วจับปืนของหุ่น
สาดกระสุนใส่โดรนตัวที่สองจนหุ่นทั้งสองต่างพังไปตามๆกัน และไม่นานหนุ่นตัวที่สามก็เข้ามาในที่เกิดเหตุ แต่คอนเนอร์ไหวตัวทันหลบเข้ามุมอับสายตาของหุ่นไปก่อนหน้า
ในระหว่างที่หุ่นโดรนตัวที่สามกำลัง สแกนพื้นที่คอนเนอร์แอบย่องจากด้านหลังและซัดแชลงใส่ส่วนใบบัดของหุ่นโดรนจนหุ่นโดนเสียการทรงตัวหล่นลงไปกองอยู่ที่มุมห้อง
แต่ มีหุ่นโดรนลาดตระเวนอยู่แถวนั้นได้รับสัญญาณ ของหุ่นตัวที่สองกำลังบินเข้ามาในจังหวะที่คอนนเอร์กำลังกำจัดซากของหุ่นพอดี คอนเนอร์ยืนอึ้งต่อหุ่นโดนที่เล็งปืนมาทางเค้า ทันใดนั้น
นีเบลก็วิ่งเข้ามาในห้องพร้อมปืนยิงตะปู ยิงใส่กล้องหลักของหุ่นจนพัง ทำให้หุ่นชะงักไปชั่วครู่ เพื่อให้คอนเนอร์ได้วิ่งหนี แต่ไม่ทันหุ่นกลับไปใช้กล้องตัวที่สอง และบินตามคอนเนอร์ไป
แต่ซิสเต็มก็ขัยรถ ฟอล์ลิฟเข้ามาและชนหุ่นโดรนอัดเข้าไปชนกับกำแพงก่อนที่จะวิ่งลงมา เอาค้อนปอนอัดเข้าส่วนหลังของหุ่นจนพังเป็นชิ้นๆ
หลายชั่วโมงผ่านไป ทีมทหารรับจ้างไปพบกับหนึ่งในหน่วยMARSOC ที่กำลังต้านกับกลุ่มกบฏด้วยทีท่าอ่อนแรง
ทีมDLT ได้ยินเสียงการปะทะกันของทั้งสองฝ่ายเลยวิ่งเข้ามาสังเกตุการณ์ และพบเห้นพวกของเชอร์แมน
" เดียว นั่นมันกลุ่มของเชอร์แมน ท่าทางกำลังยุ่งอยู่กับกลุ่มกบฏ" จ่าซิสเต็มเรียกทีมให้ดู
"เอาไงครับจ่า ร่วมวงกับทางนั้นมั้ย ? " นีเบลแทรกถามมาติดๆ
"งั้นผมจะตีจากระนาบถนน ส่วนนีเบล กับคอนเนอร์ก็ วิ่งไปสมทบกับทีมนั้น พยายามพาพวกเค้าออกมาจากจุดนั้น ยิงกดดันข้าศึกไปเรื่อยๆ จนกว่าพวกนั้นจะล่าถอย นำพวกเค้าไปรวมตัวกัน
ที่ตึกริมหัวถนนนั่น รับทราบ ไปได้ ไป ไป ไป !!! " สิ้นเสียง จ่าซิสเต็มวิ่งเข้าไปยิงกดดันกุล่มกบฏ ในขณะที่นีเบลและคอนเนอร์วิ่งเข้าไปสมทบกับกลุ่มของเชอร์แมน
"ผู้กองเชอร์แมน ผู้กอง ผมนีเบลและนี่ คอนเนอร์จาก ดีแอลทีเรามาสมทบคุณและพาคุณไปจากนี่ แต่ตอนนี้เราต้อง ยิงกดดันพวกนั้นก่อน " นีเบล เข้าไปหลบหลังกำบัง ตะโกนใส่ผู้กองเชอร์แมน
"ได้งั้นพวกนายช่วงทีมชั้นยิงพวกบ้านี่หน่อย " ผู้กองเชอร์แมน แอบยิ้มมุมปาก ชี้ไปทางกลุ่มกบฏ ก่อนที่จะโผ่ลออกไปยิงใสกลุ่มกบฏ
ผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วโมงหลังจากการปะทะ กลุ่มกบฏ ล่าถอยออกจากพื้นที่ไป กลุ่มดาร์ก ไลเคนโทวฟ และกลุ่ม มาร์ซ็อค ก้มายังจุดนัดพบ ในตึก
นั่งล้อมวงรอบๆกองไฟ คุยถึงเรื่องภาระกิจในเมืองนี้ของทั่งสองทีม
ผู้กองคอนเนอร์เล่าว่า เมืองนี้ ถูกปิดตายด้วยสัญญาณคลื่นความถี่ ที่รบกวนอุปกรณ์ที่ไม่มีตัวป้องกันของทางนั้น ทำให้โดรนใช้การไม่ได้ การรบทุกรูปแบบถูกขัดขวางหมด
ทั้งรถถัง รถลำเลียงพล หุ่นโดรน ทุกอย่าง พังหมด ข้อมูลของเรา ที่ได้รับมา ตัวปล่อยคลื่น ถูกอำพรางเสาสัญญาณไว้ ด้วยการทำให้เหมือนต้นไม้ ซึ่ง มันก้เหมือนจนเกินไป
ทำให้ตลอดเวลาเราแยกไม่ออกกัน และตามหามันยากมาก แต่เราก้ยังมีหวัง เพราะ เราก็กำจัดวงค้นหาจนเหลือที่สุดท้ายแล้ว
หลายวันให้หลัง ทีมดีแอลที และ มาร์ซ็อค เข้าบุกโจมตี โดยให้ทีม ดีแอลทีเป็นตัวตีหลัก และ ทีมมาร์ซ็อคเป็นหน่วยเสริมคอยยิงคุ้มกันด้วยสไนเปอร์ ส่วนแอนโทนีย์จัดการเรื่องกับระเบิดทำแนวป้องกัน
ผู้กองคอนเนอร์นำทีมเข้าชาร์จพื้นที่ต้องสงสัย กำจัดหน่วยลาดตระเวนข้าศึก จนหมด เพียงไม่กี่อึดใจสัญญาณก็ดังขึ้น พร้อมกับ กลุ่มกบฏที่แห่มาพร้อมอาวุธครบมือ เป็นการยืนยัน
ถึงตำแหน่งเครื่องปล่อยสัญญาณได้อย่างดี จึงจำเป้นต้องรีบวางระเบิด ก่อนล่าถอยกลับ มาร์ซ็อค และบางส่วนของ ดีแอลที ตั้งรับป้องกัน
โดยให้ จ่าซิสเต็มวางระเบิดทำลายเครื่องปล่อยสัยญาณ แต่ศัตรูกลับโจมตีมาไม่มากสลับการโจมตีไปมา ตามหลักแล้วทหารหน่วยรบพิเศษหรือกองกำลังติดอาวุธ หากโจมตีสลับไปมา เป้นการลวงให้ข้าศึกคิดว่ามี
ทหารจำนวนมาก ซึ่งเป้นไปตามที่เชอร์แมนคาดการไว้ ว่าจะมีทีมหลักบุกเข้ามา กลุ่มกบฏยิงระเบิดควันอำพรางตัวเอง และยิงลูกระเบิดออกมาสมทบ
มีระเบิดลูกนึงหลุดไปทางที่กำบังของเนปจูน แต่ไม่ได้รับอันตรายอะไร กนเรียกเนปจูนให้วิ่งมาหา ซึ่งเนปจูนก็วิ่งมาอย่างทุลักทุเล จนกระทั่งหวมดเนปจูนถูกยิงเข้าที่เกราะจนเซล้มไปข้าง
ทางฝ่ายมาร์ซ็อควางป้อมปืนต่อต้านไว้ตามจุดป้องกัน แต่ดูเหมือนจะไร้ผล ต้านได้ไม่นาน เพราะกลุ่มกบฏ ทำลายทิ้งและมุ่งเป้าเข้าตีกลุ่มป้องกันอย่างต่อเนื่อง
ผู้กองเชอร์แมนพยายามติดต่อไปหาฮิวตัน แต่ดูเหมือนจะไร้ผล ฮิวตันกำลังนอนอยู่ในกำบังของตัวเอง
"โทนีย์ นายวิ่งไปเตะก้นไอ้บ้าฮิวตันที เหมือนมันจะนอนอู้งานอีกแล้ว" โทนีย์วิ่งออกไปยังกำบังของ ฮิวตัน ห่างออกไป 500เมต บนชั้น6ของห้าง
พอมาถึงโทนีย์เอานํ้าสาดใส่ ฮิวตันที่กำลังนอนอยู่จนฮิวตันสะดุ้งตื่น " ฮิวตัน นายยังจะมีอารมณ์มานอนอีกหรอวะ พวกร็อมแห่กันมาแล้ว ทำงานหน่อย "
จ่าฮิวตันเดินตบหน้าตัวเองเรียกสติ คว้าปืนประทับบ่านั่งซุ่ม แล้วโชว์สเต็ปยิง ทหาร14นาย ทั้งยิงซ้อนสอง เจาะสามตัว ยิงเข้าระเบิดมือ ถายในเวลาไม่ถึง 8วิ
เวลาผ่านไประยะหนึ่ง ดาร์กไลเคนโทวฟ และ มาณซ็อค เริ่มบาดเจ็บทีละคน จนกระทั่งจ่าซิสเต็มวางระเบิดเสร็จแล้ว จากนั้นทุกคนเริ่มใจแข็ง พาตัวเองและพรรคพวกฝาออกไป นอกเขตอันตราย
จ่าซิสเต็มวิ่งตามหลังมาติดๆ หลังจากวางระเบิดเครืองปล่อยสัญญาณเสร็จ ผู้กองและทีมได้ยิงสนับสนุนให้จ่าซิสเต็มวิ่งออกมา ท่ามกลางวงล้อมของกลุ่มกบฏ ที่ยิงกดดันมาเรือยๆ
วิ่งไปสักพักผู้กองคอนเนอร์ ก็ถูกยิงเข้าที่ลำตัวจนล้มฟุบลงไป จ่าซิสเต็มวิ่งกลับมาหาคอนเนอร์ทันที
"ผู้กอง ไม่เป้นไรใช่ไหม ให้ผมช่วย " ซิสเต็มกำลังพยุงผู้กองขึ้นมา แต่ผู้กองกระชากรีโมทมา และพลักตัวซิสเต็มออกไป
"รีบไปซะจ่า ผมไม่ยอมเป็นตัวถ่วงพวกคุณหรอก"
เชอร์แมนวิ่งมาดึงจ่าซิสเต้ม แต่ถูกจ่าปัดมือออกพร้อมชักปืนจ่อ
"นี่คือคำสั่ง ทิ้งผมไว้ที่นี่แล้วไปซะ"
เพื่อที่จะได้วิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว สลับกันยิง สลับกันถอย ทั้งสองทีมช่วยกันจนคอนเนอร์ถูกยิงที่ลำตัวจนล้มกลิ้ง จ่าซิสเต็มรีบกลับมาหาคอนเนอร์ "ผู้กอง ไม่เป็นไรใช่ใหม" ผู้กองคอนเนอร์ได้กระชากเอารีโมทมา
และบอกจ่า "รีบไปซะจ่า ผมจะไม่ยอมเป็นตัวถ่วงให้กับทุกคน"
เชอร์แมนมาดึงจ่าซิสเต็มแต่จ่าได้ปัดมือเขาออก คอนเนอร์ได้ชี้ปืนใส่ "นี่คือคำสั่ง นายไปซะ"
เชอร์แมนดึงตัวซิสเต็มออกไป พร้อมสั่งสัญญารมือให้ฮิวตัน ยิงปืนพลุทันที และฮิวตันก็ยิงปืนพลุขึ้นฟ้าไป เป็นสัญญาณสำหรับเฮลิคอปเตอร์ให้มารับ เชอร์แมนและวิสเต็มวิ่งไปสักพัก
เสียงระเบิดก็ดังสั่น เสาเครื่องส่งแจมเมอร์ล้มลง วิทยุก็มีสัญญาณเข้ามาทันที เชอร์แมนสั่งฮิวตันจุดพลุไฟสีเขียวทันที
"มาร์ซ็อคเรียกฐาน มาซ็อคเรียกฐาน แจมเมอร์ล้มแล้ว โจมตีเต็มรูปแบบได้ ยํ้าโจมตีเต็มรูปแบบได้ "
"รับทราบกำลังส่งเครื่องไปรับพวกคุณ"
ในที่สุด ภารกิจที่รบมาอย่างยาวนานได้จบลง จ่าซิสเต็มมองไปทางวิ่งวิ่งผ่านมาโดยทิ้งคอนเนอร์ไว้แบบตามไกระพริบด้วยสีหน้าเศร้าต่อสิ่งที่เห็น ผู้กองอนเนอร์ไม่ได้ตามมาด้วย เค้ายอมเสียสละ เพื่อ
ให้ทุกคนรอด
ท่ามกลางท้องฟ้าในช่วงเย็นใกล้คํ่า เครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ บินผ่านหัวไปหลายๆลำ โจมตีใส่เมืองที่พวกรอมอยู่
"มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่ยาวนาน เราแค่เข้ามาโจมตีแล้วจากไป ใช่มีเพื่อนเราไม่ได้มาด้วย เค้าเสียสละเพื่อเรา แต่วีรกรรมเขาจะยังคงอยู่ในความมรงจำของเราเสมอ ไม่สนว่าศัตรูจะโหดเหี้ยมอย่างไร เราจะต่อกรกับพวก
มัน จะถึงท้ายที่สุด "
- ผู้กองเชอร์แมน -

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กรณาใช้ภาษาสุภาพ Noเกรียน Noมนุษย์ต่างดาว

Can't find topic? find it here!